เมนู

ทรงแสดงตั้งแต่ข้อต้นไปข้อสุดท้าย (ปลาย) บ้าง ตั้งแต่ท่ามกลางไปข้อสุดท้าย
บ้าง อนึ่ง ทรงแสดงตั้งแต่ข้อสุดท้ายไปข้อต้นบ้าง ตั้งแต่ท่ามกลางไปข้อต้น
บ้าง เหมือนการจับเถาวัลย์ของบุรุษ 4 คน ผู้นำเถาวัลย์ไปฉะนั้น.

แสดงปฏิจจสมุปบาทอย่างที่ 1


เหมือนอย่างว่า ในบุรุษ 4 คน ผู้นำเถาวัลย์ไป คนหนึ่งเห็นโคน
เถาวัลย์ก่อนนั่นเทียว เขาจึงตัดโคนเถาวัลย์นั้นจับดึงเถาวัลย์ทั้งหมดไปใช้ใน
การงาน ฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ฉันนั้น ย่อมทรงแสดงปฏิจจสมุปบาท
ตั้งแต่ข้อต้นจนถึงแม้ข้อสุดท้ายว่า อิโต โข ภิกฺขเว อวิชฺขาปจฺจยา สํขารา
ฯเปฯ ชาติปจฺจยา ชรามรณํ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลาย
เกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ฯลฯ ชราและมรณะ เกิดเพราะชาติ
เป็นปัจจัย ด้วยประการฉะนี้แล* ดังนี้.

แสดงปฏิจจสมุปบาทอย่างที่ 2


เหมือนอย่างว่า ในบุรุษเหล่านั้น คนหนึ่งเห็นท่ามกลางเถาวัลย์ก่อน
เขาจึงตัดในท่ามกลาง ดึงเอาส่วนท่อนบนเท่านั้นมาใช้ในการงาน ฉันใด
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ฉันนั้น ย่อมทรงแสดงตั้งแต่ท่ามกลางไปจนถึงแม้สุดท้าย
ว่า ตสฺส ตํ เวทนํ อภินนฺทโต อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺฐโต
อุปฺปชฺชติ นนฺทิ ยา เวทนาสุ นนฺทิ ตทุปาทานํ ตสฺสุปาทานปจฺจยา
ภโว ภวปจฺจยา ชาติ
เมื่อกุมารนั้น เพลิดเพลิน บ่นถึง ติดใจ
เวทนานั้น ความเพลิดเพลินก็เกิดขึ้น ความเพลิดเพลินในเวทนา
* ม. มูล. เล่ม 12. 446/480

ทั้งหลายเป็นอุปาทาน เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพ
เป็นปัจจัย จึงมีชาติ
(เพราะชาติเป็นปัจจัยจึงมีชราและมรณะ)1 ดังนี้.

แสดงปฏิจจสมุปบาทอย่างที่ 3


เหมือนอย่างว่า ในบุรุษเหล่านั้น คนหนึ่งเห็นปลายเถาวัลย์ก่อนเขา
จึงจับปลายสาวเอามาทั้งเถาจนถึงโคนตามแนวของปลายแล้วนำไปใช้ ฉันใด
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ฉันนั้น ย่อมทรงแสดงปุฏิจจสมุปบาทตั้งแต่ข้อปลายจนถึง
แม้ข้อต้นว่า ชาติปจฺจยา ขรามรณนฺติ อิติ โข ปเนตํ ฯเปฯ อวิชฺชา-
ปจฺจยา สํขารา
ก็ข้อว่า ชราและมรณะมี เพราะชาติเป็นปัจจัย
ดังนี้นั้น เรากล่าวแล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะชาติเป็นปัจจัย
ชราและมรณะจึงมี ในข้อนี้ เป็นอย่างนี้หรือมิใช่
(พวกภิกษุกราบทูล
ว่า) พระพุทธเจ้าว่า เพราะชาติเป็นปัจจัย ชราและมรณะจึงมี ใน
ข้อนี้ มีความเป็นอย่างนี้แลว่า เพราะชาติปัจจัย จึงมีชรามรณะ
ก็ข้อที่ว่า ชาติมีเพราะภพเป็นปัจจัย ดังนี้นั้นเรากล่าแล้ว ฯลฯ

(พระผู้มีพระภาคเจ้า) ก็ข้อที่ว่า เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร
ทั้งหลาย ดังนี้นั้น เรากล่าวแล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอวิชชา
เป็นปัจจัยจึงมีสงขารทั้งหลาย ในข้อนี้ เป็นอย่างนี้ หรือมิใช่
(พวก
ภิกษุ) พระพุทธเจ้าข้า เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขาร ในข้อนี้
ก็เป็นอย่างนี้ว่า เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขารทั้งหลาย
2ดังนี้
1. ม. มูล. เล่ม 12. 453/488 2. ม. มูล. เล่ม 12. 447/480